วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดอกบัว


  บัว เป็นพืชล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้น โดยมีก้านใบส่งขึ้นมาเจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ รูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีหลายแบบ บางชนิดมีก้านใบบัวและผิวบัวยังมีลักษณะเป็นมันวาวอีกด้วย
บัวเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ถือเป็นสัญญลักษณ์ของคุณงามความดี บัวหลวงชอบขึ้นในน้ำจืดออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอาด อยู่ในน้ำลึกพอสมควร ถิ่นกำเนิดของบัวอยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จะเริ่มบานตั้งแต่ตอนเช้า ก้านดอกยาวมีหนามเหมือนก้านใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชูสูงกว่าใบเล็กน้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวหรือสีเทาชมพู ร่วงง่าย กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนหลายชั้น เกสรตัวผู้มีจำนวนหลายสี




 ที่มา http://th.wikipedia.org

ดอกพุทธรักษา

      

      ความเป็นมา
     พุทธรักษาเป็นไม้ในเขตร้อนตามบันทึกถูกพบครั้งแรกในหมู่เกาะเวสอินดี้ และแถบอเมริกาใต้ จะพบได้ทั้งในที่ลุ่มและที่ดอนในเขตต่างๆอย่างไรก็ตามไม้นี้ถูกนำมาพัฒนา เป็นไม้ประดับและขยายพันธุ์ให้ดีขึ้นโดยชาวยุโรปในช่วงเวลาหลายปีนั้นต้นไม้ ได้มีการปรับตัวให้ทนกับทุกสภาพอากาศในประเทศต่างๆแม้ว่าสภาพอากาศในเขตที่ หนาวจัดเป็นอุปสรรคในการปลูกแต่ถ้าสามารถเข้าใจวงจรการเจริญเติบโตของมัน แล้วการใช้เทคนิคต่างๆก็สามารถชนะธรรมชาติได้ในที่สุด  

ถ้าเราย้อนหลัง ไปในอดีตสักร้อยปี จะพบว่าพุทธรักษาเป็นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและถูกนำมาปลูกอย่าง แพร่หลายในสวนทั้งขนาดเล็กและใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานความนิยมก็ลดลงแต่ก็ฟื้นกลับมาอีกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน พุทธรักษาเป็นไม้ดอกระดับนานาชาติโดยหลายๆประเทศยอมรับให้เป็นไม้หลักในการ ตบแต่งสถานที่ที่สำคัญๆ ลักษณะช่อดอกที่หลากสีสร้างความเร้าใจให้กับนักจัดสวนยุคใหม่ที่เน้นไม้ที่ ปลูกง่ายและสวยงามอยู่เสมอ
ชื่อไทยของ พุทธรักษานั้นไม่มีการบันทึกว่าตั้งโดยผู้ใดแต่เป็นชื่อที่ไพเราะมีความหมาย เหมาะกับวัฒนธรรมของบ้านเราที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติที่ชาวพุทธทุก คนควรปกป้องและรักษาไว้ แต่ชื่อสากลที่เรียกว่า แคนนาส์ (Cannas) มาจากศัพท์ของภาษากรีกที่เขียนเป็นอังกฤษว่า (Kanna) ที่หมายถึง ต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายต้นอ้อ มีการเรียกไม้นี้ในต่างประเทศอย่างหลากหลาย อาทิเช่น แคนนา ลิลี่ (Canna lily) อินเดียนช็อตแพล้น (Indian short plant) ฯลฯ ในประเทศสเปน ชาวบ้านนำเมล็ดที่กลมแข็งสีดำมาใช้ทำลูกปัด เครื่องดนตรีที่เรียกว่า โฮชา (Hosha) ของชาวซีมบาเว ที่ใช้ในการเขย่านั้นใช้เมล็ดพุทธรักษาเป็นส่วนประกอบ


      ลักษณะ ทั่วไป
    พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้น โตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อน สลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์


   ที่มา  http://www.baanmaha.com

ดอกมะลิ

    

            มะลิเป็นพรรณไม้ยืนต้น และเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก จนถึงขนาดกลางบางชนิดก็มีลำต้นแบบเถาเลื้อย ลำต้นมีความสูงประมาณ1-3 เมตร ผิวเปลือกลำต้นสีขาวมีสะเก็ดรอยแตกเล็กน้อย ลำต้นเล็กกลมแตกกิ่งก้านสาขาไปรอบ ๆ ลำต้น ใบเป็นใบเดียวแตกใบเรียงกันเป็นคู่ ๆ ตามก้านและกิ่งลักษณะของใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ออกตามส่วนยอดหรือตามง่ามใบ ดอกเล็กสีขาวมีกลีบดอกประมาณ 6-8 กลีบ เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ขนาดดอกบานเต็มที่ประมาณ 2-3 เซนติเมตรผลเป็นรูปกลมรีเล็กเมื่อสุกจะมีสีดำภายในมีเมล็ดอยู่1เมล็ดนอกจากนี้ลักษณะของลำต้นและดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์


การเป็นมงคลมะลิ
     คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมะลิไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความรักความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไปเพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่แห่งชาติซึ่งเป็นสัญลักณณ์แสดงถึงความรักของลูกต่อแม่และผู้ที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณนอกจากนี้คนไทยโบราณยังเชื่ออีกว่า บ้านใดปลูกต้นมะลิไว้ประจำบ้าน จะทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ เพราะดอกมะลิมีสีขาวบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ซึ่งคนไทยนิยมใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาพระ



ดอกกุหลาบ


     


กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า"Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย
     สีกุหลาบสื่อความหมาย 

 สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ 
 
สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ 

สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง 

สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ 

 สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 
 
สีส้ม สื่อความหมายถึง ฉันรักเธอเหมือนเดิม



ที่มา   http://hilight.kapook.com
     

ดอกทิวลิป



       
 ทิวลิป  เป็นดอกไม้ยอดนิยมของฤดูใบไม้ผลิมาตลอด  และเป็นดอกไม้ยอดนิยม อันดับสามรองลงมาจาก  กุหลาบและเบญจมาศ เชื่อกันว่า  ถิ่นกำเนิดของดอกทิวลิป มาจากตะวันออกกลาง   เมื่อพันกว่าปีที่ผ่านมาแล้ว ดอกทิวลิปเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ตุรกี และจากความเชื่ออีกเรื่องหนึ่งคือ ชื่อของดอกไม้ชนิดนี้ได้มีคำที่เหมือน กับเครื่องสวมศีรษะของชาวเปอร์เซียที่เรียกว่า turban และสามารถเขียนได้เป็น “toliban” ในภาษาละติน และ “tolipa”และ สุดท้ายจึงกลายมาเป็น tulip 

ดอกทิวลิป เป็นสัญลักษณ์ของ  จินตนาการ   ความใฝ่ฝัน คู่รักที่สมบูรณ์แบบ  และ ความรักที่เปิดเผย
ดอกทิวลิปแดง     หมายถึงรักที่ไม่ปิดบัง ซ่อนเร้น เปิดเผยอย่างจริงใจ  เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ แด่คนรักของคุณ  ดอกทิวลิปยังเป็นต้นไม้ตามหลักฮวงจุ้ยที่เหมาะแก่การปลูกในบ้าน เชื่อกันว่า ดอกทิวลิปแดง  จะนำชื่อเสียงและเกียรติยศเข้ามาในชีวิตเราได้
          ดอกทิวลิปชมพู    ดอกสีชมพูเป็นดอกยอดนิยมแทบจะทุกโอกาส   สีชมพูนั้นเปรียบเสมือน ความสุขอันสมบูรณ์แบบ และความมั่นใจ และเนื่องจากดอกทิวลิปมีลักษณะดอกที่ใหญ่  ช่อชูดอกให้เห็นชัดเจนและต้นของมันมักจะให้ดอกเดี่ยว ทำให้ดอกทิวลิป มีความหมายอีกแง่หนึ่ง  คือ   “ คนที่เปิดเผย ไม่ปิดบังอีกด้วย 
          ดอกทิวลิปสีเหลือง    ดอกสีเหลืองนั้นเมื่อก่อนมีความหมายว่า  รักที่หมดหวัง แต่ในปัจจุบัน  มีความหมายว่า ความคิดอันเบิกบาน และแสงตะวันส่อง ด้วยเหตุผลของความหมายอันหลากหลายนี้เองทำให้ดอกทิวลิปยังคงได้รับความนิยม อยู่เสมอ 
         ดอกทิวลิปสีส้ม    สีส้มของดอกทิวลิปนั้นสื่อถึงความอบอุ่น  ความสุข  ความงดงาม  และความมีเสน่ห์
         ดอกทิวลิปสีผสม    ประเทศฮออลแลนด์ เป็นประเทศที่คลั่งไคล้ดอกทิวลิปเป็นอย่างมาก  ดูได้จากศตวรรษที่ 17  ดอกทิวลิป  มีค่าแทนเงินเลยทีเดียว  จนกระทั่งดอกทิวลิป  กลายเป็นดรรชนีชี้วัดความมั่งคั่ง  และชื่อเสียง ของชาวฮอลแลนด์  เสมอมา ในยุค  “ตื่นทิวลิป”   ซึ่งอยู่ในช่วงปี 1634 – 1637 ทิวลิปเป็นสัญลักษณ์  ของจินตนาการ   ความใฝ่ฝัน   รักที่สมบูรณ์แบบ และความรักอันเปิดเผย




ที่มา http://www.dalhadalee.com